Cute Deer Hearts

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียน ครั้งที่ 4 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

บันทึกการเรียน ครั้งที่ 4
วิชา การบริหารจัดการสถานศึกษาระดับปฐมวัย
(School Administration in Early Childhood) กลุ่มเรียน 102
อาจารย์ผู้สอน ร.ต.กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560



นางสาววีรดา ตรีมิ่งมิตร เลขที่ 4 




นางสาวภูษณิศา กาบเครือ เลขที่ 7



 นางสาวภณิชชา กาบเครือ เลขที่ 8




นางสาวธนทร ศรีหินกอง เลขที่ 9


นำเสนองานกลุ่ม เรื่อง ประเภทของสถานศึกษาปฐมวัย



กลุ่มที่ 1 โรงเรียนอนุบาล

              


              โรงเรียนอนุบาล  คือ Kindergarten แปลตรงตัวว่า “Children’s garden” หรือ “สวนเด็ก” อนุบาลเป็นสถานศึกษาก่อนวัยเรียน (Pre-school) สำหรับเด็กที่มีอายุระหว่าง 2 ถึง 7 ขวบ ผู้ประดิษฐ์คำว่า “Kindergarten” คือ Friedrich Fröbel เพื่อเป็นสถานการเล่นและกิจกรรม ซึ่งเขาก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2380 ในหมู่บ้าน Bad Blankenburg ประเทศเยอรมนี   เพื่อเรียนรู้การสื่อสาร เล่น และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างเหมาะสม โดยครูทำหน้าที่สร้างสื่อ (Materials) และกิจกรรมต่างๆ เพื่อจูงใจให้เด็กๆ เหล่านี้เรียนรู้ภาษาและศัพท์ของการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ รวมทั้งดนตรี ศิลปะ และพฤติกรรมทางสังคม 


ตัวอย่างโรงเรียนอนุบาล









กลุ่มที่ 2 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ของสถาบันศาสนา



  • ศาสนาอิสลาม  

  1.  ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ มัสยิดอัลกอบาตีน บ้านคลองเตาะ
  2. ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ ประจำ มัสยิดยามิอุ้ลคอยรอต
          เพื่อเตรียมตัวเด็กในการที่จะเข้าศึกษาต่อในระบบโรงเรียน เน้นความพร้อมในการช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวันเบื้องต้น ช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง และเพื่อเป็นสวัสดิการพื้นฐานในเรื่องการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย


  • ศาสนาพุทธ


  1. ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ วัดขวัญมงคล บ้านจันทัย ตำบลวาริน อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ก่อตั้งโดย มูลนิธิพระครูธรรมสมาจารย์ (พัก ธมฺมทตฺโต) เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมแก่เด็กตั้งแต่ปฐมวัย และอนุเคราะห์เด็กในชุมชนรอบวัดขวัญมงคลได้มีโอกาสเข้าศึกษาในระดับปฐมวัย
  2. ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดศรีบุญเรือง ก่อตั้งโดย พระครูศรีปริยัติคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมแก่เด็กตั้งแต่ปฐมวัย และอนุเคราะห์เด็กในชุมชนรอบวัดศรีบุญเรืองได้มีโอกาสเข้าศึกษาในระดับปฐมวัย


  • ศาสนาคริสต์


  1. สถานรับเลี้ยงเด็กคริสตจักรวัฒนา ภายใต้การกำกับของคริสตจักรวัฒนา  รับเด็กอายุ 1-3 ปี และรับดูแลหลังเลิกเรียนเด็กอนุบาลถึงประถม มีจุดมุ่งหมายที่จะส่งเสริมเด็ก ให้มีพัฒนาการที่ดีตามวัย เพื่อให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ กล้าแสดงออกและมีความเชื่อมั่นในตนเอง ตลอดจนปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมแบบคริสเตียนเพื่อสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
  2. สถานรับเลี้ยงเด็กคริสตจักรไมตรีจิต บางพลี  รับเด็กอายุ 2-6 ปี




กลุ่มที่ 3 เนอร์สเซอรี่





            เนอร์สเซอรี่ เป็นคำทับศัพท์มาจากคำภาษาอังกฤษว่า NURSERY สามารถเขียนเป็นภาษาไทยได้หลายแบบ เช่น เนอร์สเซอรี่   เนอสเซอรี่   เนิสเซอรี่  ซึ่งคำว่า NURSERY ในภาษาอังกฤษมีความหมายหนึ่งว่า Baby’s Room (ห้องเลี้ยงเด็ก)   แต่เรานำมาใช้กับ สถานที่รับเลี้ยงดูเด็กเล็กก่อนวัยอนุบาล ซึ่งเราสามารถเรียกว่าเป็น “สถานรับเลี้ยงเด็ก”  โดยส่วนใหญ่จะรับเลี้ยงดูเด็กเล็กอายุแรกเกิดถึง 3 ขวบ แต่บางแห่งอาจรับเฉพาะในระดับ 2-3 ขวบ คือระดับ “เตรียมอนุบาล” 
             เนอร์สเซอรี่บางแห่งอาจมีกิจกรรมการเรียนการสอนในลักษณะ   NURSERY SCHOOL   คือไม่ได้ดูแลเฉพาะให้กิน-นอน-เล่นเท่านั้น แต่จะมีกิจกรรมการเรียนการสอน  ซึ่งเนื้อหาเหมาะกับวัยเตรียมอนุบาล 

ตัวอย่าง เนอร์สเซอรี่








กลุ่มที่ 4 ศูนย์เลี้ยงเด็ก




กลุ่มที่ 5 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน



               ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน หมายความว่า สถานที่รับเลี้ยงเด็กและดูแลเด็กก่อนวัยเรียน ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชน และดำเนินงานในรูปของคณะกรรมการภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการชุมชน
เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปี
             
               ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนที่จัดตั้งขึ้นในชุมชนได้ดำเนินการภายใต้ภาวะข้อจำกัดหลายประการ เช่น งบประมาณ สถานที่คับแคบ อาสาสมัครผู้ดูแลเด็กขาดความรู้ความเข้าใจในการอบรมดูแลเด็ก แม้จะพบว่า มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานก็ตาม กรุงเทพมหานครก็มิได้นิ่งนอนใจ และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในชุมชน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 เป็นต้นมา
               
               ดังนั้นศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในชุมชนจึงเป็นสถานที่รับเลี้ยงและดูแลเด็กในชุมชนด้วยความคิดริเริ่มและความพร้อมของประชาชนในชุมชนนั้นๆ ภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการชุมชนโดยมีอาสาสมัครผู้ดูแลเด็กเป็นกลไกสำคัญที่จะนำบริการทางสังคมไปสู่การพัฒนาเด็กตามหลักวิธีการทางจิตวิทยา เพื่อเด็กก่อนวัยเรียนในชุมชนจักได้รับการพัฒนาตามควรแก่วัยและมีความพร้อมที่จะก้าวไปสู่การศึกษาในระบบโรงเรียนต่อไป      
                     
ตัวอย่างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน











กลุ่มที่ 6 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก





               ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นสถานศึกษาที่ให้การอบรมเลี้ยงดู จัดประสบการณ์และส่งเสริมพัฒนาการ การเรียนรู้ให้เด็กเล็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 – 5 ปี ให้มีความพร้อม ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตั้งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ส่วนราชการต่าง ๆ ที่ดำเนินการจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ได้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ (ปัจจุบันอยู่ในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม) ดำเนินการในวัด/มัสยิด และสำนักงาน คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) ดำเนินการในโรงเรียน โดยเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ส่วนราชการต่าง ๆ ถ่ายโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งขึ้นเอง ถือว่าเป็นสถานศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 18 และมาตรา 4 ปัจจุบันทั่วประเทศมีอยู่ประมาณกว่า 19,000 แห่ง                                                              

               บทบาทหน้าที่ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก  คือ การให้บริการ การอบรมเลี้ยงดู การจัดประสบการณ์และส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นสถานศึกษาที่ให้การอบรมเลี้ยงดูจัดประสบการณ์และส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ให้เด็กเล็กได้รับการพัฒนา ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญาที่เหมาะสมตามวัยตามศักยภาพของเด็กแต่ละคน ดังนั้น ระยะเวลาการจัดการเรียนรู้และแนวทางการจัดการเรียนรู้ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจึงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมเพื่อให้เด็กเล็กได้รับการศึกษาและพัฒนาเป็นไปตามวัยแต่ละช่วงอายุ สอดคล้องกับสังคม วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ให้เด็กเล็กพร้อมที่จะเข้ารับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นต่อไป ตาม ระยะเวลาเรียนรู้ในรอบปีการศึกษาโดยให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเปิดภาคเรียนรวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 230 วัน โดยมีการให้บริการต่าง ๆ ดังนี้

             1. การให้บริการส่งเสริมสนับสนุนเด็กเล็ก ได้แก่  อาหารกลางวัน  อาหารว่าง เครื่องนอนอาหารเสริม (นม) วัสดุ สื่อ อุปกรณ์การศึกษา และวัสดุครุภัณฑ์ การตรวจสุขภาพเด็กเล็กประจำปี โดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข  บริการอื่น ๆ ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความพร้อม เช่น เป็นศูนย์ 3 วัยและหรือศูนย์การเรียนรู้ชุมชน เป็นต้น

             2 การให้บริการอบรมเลี้ยงดู จัดประสบการณ์ และส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ให้เด็กเล็ก อายุ 2-5 ปี ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หรือใกล้เคียงได้ตามศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

             3. จัดประสบการณ์ และส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ ให้เด็กเล็กมีการพัฒนาการครบทั้ง 4 ด้าน คือด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา ให้เหมาะสมตามวัย ศักยภาพของเด็กแต่ละคน ตามมาตรฐานการดำเนินงานศูนย์พัฒนาเด็กเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตร

             4. กรณีจำเป็นต้องใช้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อประชุม สัมมนา ฝึกอบรม จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร หรือกิจกรรมอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อราชการและชุมชน หรือเหตุจำเป็นอื่นที่ไม่อาจเปิดเรียนได้ตามปกติ ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สั่งปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ไม่เกิน 15 วัน หากเป็นเหตุพิเศษที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติสาธารณะ ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สั่งปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ไม่เกิน 30 วัน โดยให้ทำคำสั่งปิดเป็นหนังสือ และต้องกำหนดการเรียนชดเชยให้ครบตามจำนวนวันที่สั่งปิด

             5. ในระหว่างปิดภาคเรียน หรือปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตามข้อ 1.4.5 ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีคำสั่งให้หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้ดูแลเด็ก ผู้ช่วยครู ผู้ดูแลเด็ก หรือพนักงานจ้างอื่นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมาปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเตรียมการด้านวิชาการ หลักสูตร การจัดการเรียนรู้แก่เด็กเล็ก สื่อ นวัตกรรม วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ การจัดสภาพแวดล้อม หรือการพัฒนาศูนย์ในด้านต่าง ๆ หรืองานด้านการศึกษาปฐมวัยอื่น

             การกำหนดอัตราบุคลากรในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมีหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1 อัตรา มีอัตราครูผู้ดูแลเด็กเป็นไปตามสัดส่วน (ครู:นักเรียน) 1:20 หากมีเศษตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ให้เพิ่มครูผู้ดูแลเด็กได้อีก 1 คน โดยจัดการศึกษาห้องละ 20 คน  สำหรับอัตราผู้ช่วยครูผู้ดูแลเด็ก และตำแหน่งอื่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณากำหนดให้มีได้ตามจำนวนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับฐานะการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ภารกิจในการพัฒนาเด็กปฐมวัยของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

             การจัดการศึกษาระดับปฐมวัยเน้นที่การเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก การให้ความรักความอบอุ่น ส่งเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี ให้เกิดวุฒิภาวะทางกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา โดยให้โอกาสทั้งเด็กปกติ เด็กด้อยโอกาส และเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ให้ได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ หลักสูตรการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ครอบคลุม ด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปัญญา ดังนี้ (กรมวิชาการ 2546)

1. ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย และมีสุขนิสัยที่ดี

2. กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและประสาน สัมพันธ์กัน

3. มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข

4. มีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงาม

5. ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหว รักการออกกำลังกาย

6. ช่วยเหลือตนเองได้เหมาะสมกับวัย

7. รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและความเป็นไทย

8. อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกของสังคมในระบอบประชาธิปไตยอันมี

พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

9. ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย

10. มีความสามารถในการคิดและการแก้ปัญหาเหมาะสมกับวัย

11. มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

12. มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีทักษะในการแสวงหาความรู้



ตัวอย่างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก










กลุ่มที่ 7 โรงเรียนเตรียมประถม


                 โรงเรียนเตรียมประถม คือ เด็กที่มีสิทธิ์เริ่มเข้าชั้นเตรียมประถม เมื่อมีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ชั้นเตรียมประถม เป็นการศึกษาอีกประเภทหนึ่ง ที่นำกิจกรรมสร้างสรรค์ และการเล่นเพื่อการเรียนรู้มาใช้เป็นส่วนใหญ่

                  ลักษณะโรงเรียนเตรียมประถม เป็นการศึกษาเชื่อมต่อจากชั้นอนุบาลไปสู่การศึกษาภาคบังคับหรือขั้นพื้นฐาน โดยจะผสมผสานรูปแบบการดำเนินงานและวิธีการ ระหว่างโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนขั้นพื้นฐานเข้าด้วยกัน



ตัวอย่างโรงเรียนเตรียมประถม










กลุ่มที่ 8 สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย





























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกการเรียน ครั้งที่ 14 วันที่26 เมษายน พ.ศ.2560

บันทึกการเรียน ครั้งที่ 14 วิชา การบริหารจัดการสถานศึกษาระดับปฐมวัย ( School Administration in Early Childhood)  กลุ่มเรียน 102 อาจา...