บันทึกการเรียน ครั้งที่ 12
วิชา การบริหารจัดการสถานศึกษาระดับปฐมวัย
(School Administration in Early Childhood) กลุ่มเรียน 102
อาจารย์ผู้สอน ร.ต.กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2560
เลขที่ 22 นางสาวจิดาภา ร่าเริง
นำเสนอคำคม
เลขที่ 22 นางสาวจิดาภา ร่าเริง
เลขที่ 23 นางสาวพัชราวรรณ บรรลือทรัพย์
เรื่อง
การจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
ความสำคัญของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การจัดการศึกษาปฐมวัยเป็นมิติใหม่ของการพัฒนาชุมชนเพื่อส่งเสริมการศึกษาและความเป็นอยู่ของเด็กในชุมชนให้ดีขึ้นและนับวันจะมีความสำคัญต่อชุมชนมากยิ่งขึ้น
เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความสำคัญของการพัฒนาในช่วงระยะแรกของชีวิตเด็กและให้บรรลุถึงเป้าหมายของการพัฒนาเด็กคุณภาพ
ประชากรเป้าหมายอันได้แก่ด้านสุขภาพอนามัยโภชนาการและด้านสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมอบอุ่นปลอดภัย
จุดมุ่งหมายในการจัดการศึกษาปฐมวัย
1.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กอย่างเต็มที่เพื่อจะได้เป็นพลเมืองไทยที่สมบูรณ์แข็งแรง
2.เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านบุคลิกภาพ อารมณ์
และสังคมของเด็กเพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพที่สมบูรณ์มีความเข้มแข็งทางจิตใจ
3.เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีนิสัยที่ขยัน แข็งแรง
ซื่อสัตย์มีระเบียบวินัยประหยัดสะอาด
4.เพื่อส่งเสริมความคิดที่สร้างสรรค์ด้านต่างๆ
5.เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียน/ศูนย์เด็กก่อนวัยเรียนในการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆของเด็ก
6.เพื่อตระหนักในปัญหาความเบี่ยงเบนของพัฒนาการเสียแต่แรกและดำเนินการต่อไปโดยเหมาะสม
หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัย
การศึกษาในระดับปฐมวัยเป็นการศึกษานะดับขั้นพื้นฐานที่ไม่ใช้การศึกษาภาคบังคับจึงทำให้มีหน่วยงานหลายหน่วยงานให้ความสนใจเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการและรับผิดชอบการจัดการศึกษาในระดับนี้ที่ประกอบไปด้วยหน่วยงานภาครัฐ/เอกชนโดยจะมีลักษณะดำเนินการและวัตถุประสงค์ของหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัยที่จัดให้มีระบบโรงเรียน
ได้แก่
1.กระทรวงศึกษาธิการ
1.1สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดในรูปแบบระบบโรงเรียน ได้แก่
โรงเรียนอนุบาลของรัฐ
1.2สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ได้แก่โรงเรียนอนุบาลเอกชนอยู่ในความดูแลของหน่วยงานย่อยการศึกษาเอกชนรับเด็กในช่วงอายุ
3-6ปี เข้าเรียนในชั้นอนุบาลหลักสูตร 3ปีอนุบาล
1 อายุ3-4ปี อนุบาล 2 อายุ3-5ปีอนุบาล 3อายุ 5-6ปี
1.3สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการอุดมศึกษาจัดในรูปแบบระบบโรงเรียน
โรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัย
1.4องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบการจัดการศึกษาในระบบโรงเรียนรับเด็กช่วงอายุ
4-6ปี
1.5สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดในระบบโรงเรียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดในรูปโรงเรียนตำรวจชายแดน
หน่วยงานที่จัดการศึกษาในรูปแบบศูนย์พัฒนาเด็ก
1.สถานสงเคราะห์เด็กก่อนวัยเรียน/ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของกองบัญชาการตำรวจชายแดนจัดบริการเด็กอายุ2-6ปี
2. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนของกรมประชาสงเคราะห์ให้การอนุบาลเลี้ยงเด็กให้การศึกษาแก่เด็กชาย/หญิงอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง
6ขวบที่มีปัญหาการเลี้ยงดูจากพ่อแม่/เด็กพิการ
3.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น สังกัดกระทรวงมหาดไทย
4.สถานรับเลี้ยงเด็กกลางวันของสำนักงานอนามัย กรุงเทพมหานคร
5. สถานรับเลี้ยงเด็กกลางวันของสำนักงานสวัสดิการสังคมกรุงเทพมหานคร
6.บ้านเด็กสาธิตมหาวิทยาลัย
หลักเกณฑ์การจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
1.การจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในรูปแบบโรงเรียน
ขั้นตอนที่ 1
- สถานที่
- ที่ดิน
- อาคารเรียน/ห้องเรียนและห้องประกอบ
- ครุภัณฑ์และอุปกรณ์การเตรียมความพร้อง
ขั้นตอนที่ 2
- การขอจัดตั้งโรงเรียน
- โครงการจัดตั้งโรงเรียน
- ยื่นหนังสือขออนุญาตใช้แบบแปลนเพื่อก่อสร้างความพร้อมของเอกสาร
- แบบแปลน 3
ชุด
- หนังสือรับรองของสถาปนิก/วิศวกร
- เอกสารการแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
- รายการคำนวณโครงสร้าง
- ในกรณีที่ผู้จัดตั้งโรงเรียนมีอาคารที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยก็จะดำเนินการ
ดังนี้
- แบบแปลน 3 ชุด
- หนังสือรับรองสภาพความมั่นคงของอาคารรับรองโดยวุฒิของวิศวกร
- เอกสารแสดงการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ใช้จัดตั้งโรงเรียนได้รับรองเป็นสำเนาถูกต้อง
- การยื่นเรื่องส่วนกลาง ให้ยื่นเรื่องที่กองโรงเรียนสามัญศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนส่วนภูมิภาค ให้ยื่นเรื่องที่อำเภอซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงรียน
ขั้นตอนที่ 3
เมื่อก่อสร้างอาคารเสร็จเรียบร้อยให้ผู้ขอรับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนดำเนินการยื่นเอกสาร
- คำขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน(สช 1)พร้อมเอกสารระบุท้ายคำขอ
- คำขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน(สช4) พร้อมเอกสารระบุท้ายคำขอ
- คำขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน(สช 7) พร้อมเอกสารระบุท้ายคำขอ
- คำร้อง ร.11
- ระเบียบการโรงเรียน
- แผนผังบริเวณโรงเรียน
- แผนผังอาคารเรียน/ห้องต่างๆ
- รายการตรวจสถานที่และสุขาภิบาล
- ใบอนุญาตให้ใช้แบบแปลน
คุณสมบัติของผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนผู้จัดการครูใหญ่/ครู
- 1.มีความรู้ไม่ต่ำกว่าชั้น ม.3ตามหลักสูตรพุทธสักราช 2521
- 2.ต้องมีความรู้ไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาปีที่
6ตามหลักสูตรตอนปลาย
- 3.ผู้ขอเป็นครูใหญ่
-
ต้องมีความรู้ทางการศึกษาไม่ต่ำกว่าประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา/มีความรู้ทางการศึกษาซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองว่าเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ต้องมีประสบการณ์เป็นครูมาไม่น้อยกว่าสามปี
- ต้องมีความรู้ทางการศึกษาไม่ต่ำกว่าประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง
มีความรู้ทางการศึกษาซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองว่าเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้
ต้องมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่าสองปี
- ต้องมีความรู้ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
2.การจัดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยภาคเอกชน
ขั้นตอนในการจัดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
- การรับนักเรียน
- การจัดประสบการณ์เตรียมความพร้อม
- การบริหารโรงเรียน
3.การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อให้สอดคล้องกับสถานที่และเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงได้กำหนดพันธกิจยุทธศาสตร์
เป้าประสงค์
พันธกิจ
- เพื่อพัฒนาความพร้อมแก่เด็กให้มีพัฒนาการทั้งสี่ด้าน
ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ ด้านสังคมและสติปัญญา
ประเด็นยุทธศาสตร์
- การส่งเสริมสนับสนุนให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีความรู้สามารถอบรมเลี้ยงดูเด็กได้อย่างถูกต้องเตรียมความพร้อมทางวุฒิภาวะและสามารถเข้าสู่ระบบการศึกษาเต็มศักยภาพ
เป้าประสงค์
- พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนได้รับความรู้ความสามารถอบรมเลี้ยงดูเด็กได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
- เด็กทุกคนได้รับการเลี้ยงดูพัฒนาตามวัยเต็มตามศักยภาพตามหลักจิตวิทยาการศึกษาและนวัตกรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น